You are currently viewing ศิลปะกินได้ ที่ Canvas ร้านมิชลิน 1 ดาวย่านทองหล่อ

ศิลปะกินได้ ที่ Canvas ร้านมิชลิน 1 ดาวย่านทองหล่อ

ชื่อของร้านบ่งบอกตัวตนได้เป็นอย่างดีเพราะ Canvas หรือผืนผ้าที่ใช้วาดลวดลายศิลปะ และเชฟหรือศิลปินเอกของร้านมิชลิน 1 ดาวแห่งนี้คือ Riley Sanders ผู้มีประสบการณ์และเปี่ยมไปด้วยเทคนิคที่เรียนรู้มาจากร้านมิชลินทั่วทุกมุมโลกเพื่อค้นหารสชาติและวัตถุดิบแปลกใหม่ในการรังสรรค์จานที่ไม่มีใครเหมือน และในวันนี้เขาได้ยกระดับวัตถุดิบไทยทั่วทุกภาคตามฤดูกาลมาสร้างสรรค์งานศิลปะกินได้ที่มีทั้งความโมเดิร์นในหน้าตาและมิติของรสชาติอันซับซ้อน ซึ่งแต่ละจานมีองค์ประกอบนับไม่ถ้วน นอกจากนี้การตกแต่งร้านยังงดงามและได้บรรยากาศสุด ๆ

ผู้ใช้บริการสามารถมองเห็นการทำอาหารที่พิถีพิถันได้ ซึ่งอาหารของทางร้านมาในรูปแบบ tasting menu จำนวน 22 คอร์ส ราคาหลักพันปลาย ๆ แต่บอกได้เลยว่าคุ้มค่าที่สุดเพราะคุณจะเหมือนได้ขึ้นเหนือลงใต้ด้วยวัตถุดิบที่หลากหลายทั่วประเทศ ที่สำคัญคุณจะได้เซอร์ไพรส์กับทุกจานที่เสิร์ฟ มาดูกันต่อเลยว่าร้านอาหารแห่งนี้จะมีความพิเศษอื่นใดบ้าง

บาร์ชั้นบน (The Bar Upstair)

หากคุณพาเพื่อนมาเยอะ ขอแนะนำโซนนั่งชั้นสองที่ค่อนข้างส่วนตัว และมีโซนบาร์ที่มีการตกแต่งย้อนยุค ซึ่งผู้ที่สร้างสรรค์เมนูค็อกเทลให้เข้ากับธีมร้าน Canvas และดูแลก็คือ Rabbit Hole นั่นเอง

เชฟผู้มีความคิดสร้างสรรค์เหนือจินตนาการ (The Creative Visionary Chef)

อย่างที่กล่าวมาข้างต้น เชฟของร้านแห่งนี้คือ Riley Sanders จากเท็กซัส เขาได้สะสมประสบการณ์จากการเดินทางไปทั่วโลกเพื่อลิ้มรสชาติอาหาร และเคยฝึกประสบการณ์ที่ร้านมิชลินมาก่อนที่จะกลายเป็นเชฟบนเรือยอชต์ ไม่ว่าจะเป็นเมนูสตรีทฟู้ดหรือไฟน์ ไดน์นิง เชฟก็ใส่ความสร้างสรรค์และเปลี่ยนหน้าตาของอาหารได้แบบคาดไม่ถึง จนกระทั่งในปี 2016 เขาได้ตัดสินใจลงหลักปักฐานในโปรเจ็กต์ Canvas นี้

จานศิลปะแห่งความโดดเด่น สีสัน รัญจวนและล้ำสมัย (Bold, colorful, stimulating, and progressive)

สำหรับอาหารของร้านนี้จะเสิร์ฟแบบ Tasting menu 22 คอร์ส และเน้นยกระดับวัตถุดิบไทยทั่วภูมิภาคมาสร้างสรรค์จานที่มีความหลากหลายของประเภทและเชื้อชาติเอาไว้ ยากยิ่งที่จะจำกัดความของอาหารเขา โดยแต่ละจานจะมีการสอดแทรกศิลปะที่มีเสน่ห์ของเรื่องราวกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญทุก ๆ จานมีการออกแบบอย่างประณีตให้ได้รสชาติใหม่และประสบการณ์ใหม่แก่ลูกค้า

สำหรับใครที่อยากมาลิ้มลองงานศิลปะเหล่านี้ สามารถจองล่วงหน้าได้ ซึ่งในปัจจุบันทางร้านจะเสิร์ฟ 22 จาน (22 Course Menus) ในราคา 6000 บาทขึ้นไปเท่านั้น ลูกค้าสามารถเพิ่มไวน์แพริ่งได้ ก่อนการเริ่มเสิร์ฟจะมีเมนูภาพและชื่อราวกับผลงานศิลปะแทนคำบรรยายแต่ละเมนู ทั้งนี้ในแต่ละฤดูกาลเมนูจะหมุนเวียนไป สามารถติดต่อสอบถามทางร้านได้เลย

ตัวอย่างเมนูศิลปะรสชาติล้ำเลิศ

1.Strawberry, palm sugar, lemon basil

ผลงานศิลปะชิ้นแรกคุณจะได้ลิ้มรสชาติของสตรอเบอร์รีสดใหม่จากจังหวัดเชียงใหม่ ที่แช่มาในน้ำส้มสายชูที่ทำมาจากน้ำตาลปี๊บ คอมบิเนชันที่แปลกใหม่ของจานนี้คือ สตรอเบอร์รี+ใบแมงลัก และซอสครีมหมักที่มีรสชาติเข้มข้น ลงตัวเป็นอย่างดีเมื่อทานพร้อมกับซอสสตรอเบอร์รีผสมกะปิและซอสขมิ้น บอกได้เลยว่าเมนูที่ดูธรรมดา แต่ล้ำลึกและซับซ้อนไม่น้อย กัดคำไหนรสชาติก็เต็มปาก เปิดต่อมรับรสชาติก่อนจะไปจานถัดไปได้เป็นอย่างดี

2.Lamb, elephant ear stem, banana chili

จานนี้วัตถุดิบหลักคือเนื้อแกะจากปากช่อง ให้รสชาติจัดจ้านถูกปากชาวไทยด้วยเครื่องเทศสำหรับหมักที่เป็นพริกป่นและเครื่องเทศไทยหลากหลายชนิด วางมาบนก้านหูช้างกรอบ ๆ เสิร์ฟพร้อมกับพริกหยวก

3.River prawn, small shrimps

เมนูนี้เอาใจคนชอบกินกุ้ง ด้วยวัตถุดิบหลักอย่างกุ้งแม่น้ำที่ห่อด้วยกุ้งเล็ก ๆ กรอบ ๆ ทานคู่กับซอสหลายชนิดทั้งซอสกุ้งและมันกุ้ง ในคำเดียวรับรองว่ารสชาติกุ้งจะระเบิดในปากคุณแบบครบเครื่อง

Canvas ที่แต่งแต้มรสชาติสุดล้ำ ด้วยวัตถุดิบจากไทย

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับร้านอาหารที่เรานำมาเสนอกันวันนี้ การันตีความโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครอีกด้วย เรื่องรสชาติและบริการไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะร้านนี้ได้รับมิชลิน 1 ดาว เงินทุกบาทของคุณจึงคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม ด้วยเมนูกว่า 22 คอร์สที่พาคุณเดินทางตั้งแต่เหนือจรดใต้ ใครอยากเปิดประสบการณ์อาหารแนวนี้ อย่าพลาดเด็ดขาด!